ทำไมอะไรๆก็ต้อง Alcohol Free
กระแสผิวแพ้ง่ายนั้นมาแรง ทำให้เครื่องสำอางที่ผสมแอลกอฮอล์กลายเป็นผู้ร้ายว่าเป็นสาเหตุทำให้ผิวแพ้ง่าย
ก่อนอื่นขอแนะนำให้คุณผู้โชมได้ทราบสักนิดค่ะว่าแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอางนั้น จริงๆมีอยู่ประมาณ 2 ประเภทค่ะ
- ประเภทแรก คือ แอลกอฮอล์จริงๆมักใช้ชื่อในส่วนผสมว่า แอลกอฮอล์ดีแทน(Alcohol denat)หรือชื่อเต็มคือ Alcohol denatured บางครั้งก็มีการเรียกเป็น SD alcohol ซึ่งย่อมาจาก specially denatured alcohol
Alcohol denat คือ การเอาแอลกอฮอล์ชนิดดื่มได้ (ethyl alcohol) มาเติมสารอื่นเพื่อปรับคุณภาพหรือเพื่อแยกเกรดไว้สำหรับทำเครื่องสำอาง ไม่สามารถนำไปดื่มได้อีกต่อไป แอลกอฮอล์ชนิดนี้มักทำให้ผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย มีอาการแสบแดง ผิวลอก ระคายเคืองได้ ถ้าใช้เป็นเวลานานหรือถ้าผสมในปริมาณสูง (มักพบในพวกโทนเนอร์กระชับรูขุมขน)
มีแพทย์ผิวหนังหลายท่านกล่าวว่า การใช้ระยะสั้นเพื่อกระชับรูขุมขนหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า สามารถใช้ได้ แต่ถ้าการใช้ระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระและทำให้ผิวเสียสมดุลย์น้ำ หล่อเลี้ยงได้ค่ะ อันที่จริงแอลกอฮอล์ประเภทนี้ อาจจะผสมไปเพื่อการตั้งตำรับให้เข้ากันได้ดี เนื้อสัมผัสน่าใช้ หรือเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ถ้ามีคำว่า Alcohol denat. ระบุข้างส่วนผสมอยู่กลางๆหรือท้ายๆตำรับนั้นสามารถใช้ได้ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าอยู่ต้นๆในตำรับ ก็อยากให้ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง พึงระวังไว้ก่อนซื้อมาใช้
- ประเภทที่สอง คือ อนุพันธ์ของแอลกอฮอล์ สูตรโครงสร้างจะไม่เหมือนกับแอลกอฮอล์ ดังนั้น คุณสมบัติจึงไม่เหมือนกัน ใช้ผสมให้ตำรับเข้ากันง่ายขึ้น ส่งผ่านความชุ่มชื้น และส่งผ่านสารสำคัญจากครีมสู่ผิวได้ดีขึ้น ดังนั้นหากพบส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆ ใช้ได้ปลอดภัยสารเหล่านั้น ได้แก่
- สารกลุ่มไกลคอล (เช่น Butylene Glycol,Propylene Glycol)
- สารกลุ่ม Fatty alcohol (เช่น Cetyl alcohol,Stearyl alcohol,Oleyl alcohol)
ปัจจุบันยารักษาสิวหลายชนิด หรือแม้แต่เครื่องสำอางดูแลสิว มักผสมแอลกอฮอล์เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อและคงตัวในตำรับ การใช้ระยะสั้นสามารถใช้ได้ พอสิวหายก็หยุดใช้แล้วบำรุงผิวตามปกติ